หมวด ๒
ผลก่อนชำระหนี้
มาตรา ๖๘๖ ลูกหนี้[1]ผิดนัดลงเมื่อใด
ท่านว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้น
มาตรา ๖๘๗ ผู้ค้ำประกันไม่จำต้องชำหนี้ก่อนถึงเวลากำหนดที่จะชำระแม้ถึงว่าลูกหนี้จะไม่อาจถือ[2]เอาซึ่งประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาเริ่มต้นหรือเวลาสุดสิ้นได้ต่อไปแล้ว
มาตรา ๖๘๘ เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะ[3]ขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อนก็ได้
เว้นแต่ลูกหนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลายเสียแล้ว
หรือไม่ปรากฏว่าลูกหนี้ไปอยู่แห่งใดในพระราชอาณาเขต
มาตรา ๖๘๙ ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม
ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้
และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากไซร้
ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
มาตรา ๖๙๐ ถ้าเจ้าหนี้มี[4]ทรัพย์ของลูกหนี้
[5]ยึดถือไว้เป็นประกันไซร้
เมื่อผู้ค้ำประกันร้องขอ
ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชำระหนี้เอาจากทรัพย์ซึ่งเป็นประกันนั้นก่อน
มาตรา ๖๙๑ ถ้าผู้ค้ำประกันต้องรับผิดร่วมกันกับลูกหนี้
ท่านว่าผู้ค้ำประกันย่อม[6]ไม่มีสิทธิดังกล่าวไว้ในมาตรา
๖๘๘,๖๘๙ และ ๖๙๐
มาตรา ๖๙๒ [7]อายุความสะดุดหยุดลงเป็นโทษแก่ลูกหนี้นั้น ย่อมเป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันด้วย
[1]
การผิดนัดพิจารณาจากมาตรา ๒๐๓, ๒๐๔, ๒๐๖
โดยมิต้องมีการฟ้องคดีต่อตัวลูกหนี้ก่อน
[2]
ตามม.๑๙๓ ลูกหนี้จะถือเอาประโยชน์จากเงื่อนเวลาไม่ได้
๑.ถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ๒.ลูกหนี้ไม่ให้ประกันเมื่อจำต้องให้
๓.ถ้าลูกหนี้ได้ทำลายหรือทำให้ลดน้อยลงซึ่งหลักประกัน
๔.ลูกหนี้นำทรัพย์สินของบุคคลอื่นมาให้ประกัน โดยเจ้าของทรัพย์มิได้ยินยอมด้วย
[3]
กรณีสัญญาค้ำประกันมีข้อตกลงพิเศษว่าลูกหนี้ผิดนัดผู้ค้ำยอมให้ฟ้องผู้ค้ำประกันได้โดยไม่ต้องฟ้องลูกหนี้ก่อนได้
ไม่ข้อต่อความสงบฯ,มาตรา ๖๘๘,๖๘๙ ไม่นำไปมช้กับสัญญาค้ำประกันการทุเลาการบังคับคดีต่อศาล เพราะไม่ใช่สัญญาค้ำประกันตามลักษณะนี้
[4]
หากเป็นทรัพย์ของบุคคลอื่น ผู้ค้ำจะใช้สิทธิตามมาตรานี้ไม่ได้ เช่น
นายก.กู้เงิน นายข.ค้ำ นายค.จำนอง นายข.จะเกี่ยงให้บังคับกับจำนองก่อนไม่ได้
[5]
ยึดถือไว้เป็นประกัน
หมายถึง
การยึดถือครอบครองดังเช่นกรณีจำนำและรวมถึงกรณีลูกหนี้เอาที่ดินมาจำนองด้วย
[6]
หลักผู้ค้ำประกันยอมรับผิดร่วมกับลูกหนี้ ไม่ใช่กรณีที่ผู้ค้ำประกันไปผูกพันเป็นลูกหนี้ร่วม
แต่ร่วมรับผิดในความหมายที่จะยกสิทธิตามม.๒๘๘,๒๘๙ ,๒๙๐
ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ไม่ได้เท่านั้น
[7]
อายุความสดุดหยุดลง มี ๕ กรณี ม.๑๙๓/๓๙
๑.ลูกหนี้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้โดยทำเป็นหนังสือ
ชำระหนี้บางส่วน ชำระดอกเบี้ย ให้ประกันหรือกระทำการใด ๆ
อันปราศจากข้อสงสัยแสดงให้เห็นเป็นปริยายว่ายอมรับ สภาพหนี้ตามสิทธิเรียกร้อง ๒.เจ้าหนี้ฟ้องคดี
๓.เจ้าหนี้ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
๔.เจ้าหนี้ได้มอบหมายให้อนุญาโตตุลาการพิจารณา
๕.กระทำอย่างอื่นอันมีผลอย่างเดียวกับการฟ้องคดี ผลอายุความสดุดหยุดลงและเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่,แม้จะมีข้อตกลงรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมก็ตาม ก็ไม่มีผลลบล้างม.๖๙๒นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น