มาตรา ๖๘๐ อันว่าค้ำประกันนั้น คือ[1]สัญญาซึ่ง[2]บุคคลภายนอกคนหนึ่งเรียกว่าผู้ค้ำประกัน
[3]ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่งเพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
อนึ่งสัญญาค้ำประกันนั้น
ถ้ามิได้มี[4]หลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ
ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
[1]
สัญญาค้ำประกันเป็นตราสารที่ต้องติดอากรแสตมป์
[2]
บุคคลภายนอก เป็นบุคคลอื่นที่มิใช่ตัวลูกหนี้เอง
[3]
ผู้ค้ำประกันต้องผูกพันตนกับเจ้าหนี้เท่านั้น
ถ้ามิได้ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้แต่ไปผูกพันกับบุคคลอื่น
ก็เป็นเพียงสัญญาธรรมดาไม่บังคับตามสัญญาค้ำประกัน เช่น ก.ให้ข.เป็นผู้ค้ำประกัน
นายเอ ต่อเจ้าหนี้ในการส่งข้าวไปขาย
โดยตกลงว่าหากเกิดความเสียหายในการค้ำประกันจะยอมรับผิด
ก.ไม่ได้ค้ำประกันกับเจ้าหนี้แต่ค้ำประกันกับผู้ค้ำ
จึงเป็นเพียงสัญญาธรรมดาไม่เอาหลักสัญญาค้ำประกันไปใช้ ,
ผู้ค้ำประกันสามารถเข้าผูกพันทำสัญญาค้ำประกันโดยตรงกับเจ้าหนี้โดยไม่ต้องอาศัยความรู้เห็นยินยอมของลูกหนี้
[4]
หลักฐานเป็นหนังสือ หมายความว่า
ในหนังสือนั้นอ่านแล้วต้องมีข้อความแสดงให้เข้าใจว่า
เป็นการค้ำประกันและมีลายมือชื่อผู้ค้ำประกันและมีลายมือชื่อผู้ค้ำประกันไว้เป็นสำคัญ หนังสือที่แสดงข้อความดังกล่าว
จะเป็นเอกสารจดหมายหรือหนังสืออะไรก็ได้
จะมีอยู่ฉบับเดียวหรือหลายฉบับก็ไม่เป็นปัญหา สำคัญอยู่ที่ว่า
เมื่ออ่านรวมกันแล้ว ต้องเข้าใจได้ว่า
มีการค้ำประกันจริงและมีลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ทั้งหลักฐานเป็นหนังสือนี้ก็ไม่ต้องมีอยู่แล้วในขณะทำสัญญา
อาจทำขึ้นภายหลังก็ได้ และไม่จำต้องมีข้อความที่ผู้ค้ำประกันสัญญากับเจ้าหนี้โดยตรง
และเจ้าหนี้ก็ไม่จำต้องลงลายมือชื่อในสัญญาค้ำประกันด้วยไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น